ตราสารหนี้สามารถแยกประเภทได้หลายแบบ แต่ในความคิดผม เรารู้แค่ที่จำเป็น ซึ่งแยกได้ 2 ประเภท คือ
1. ระยะเวลา
2. ประเภทของผู้กู้
1. ระยะเวลา - เราสามารถแยกได้เป็น ตราสารหนี้ระยะสั้น (คือลงทุนไม่เกิน 1 ปี) และ ตราสารหนี้ระยะยาว ( คือลงทุนเกิน 1 ปี)>>>> ลองทดสอบนะครับ.....เงินฝากประจำ 3 เดือนเป็นอะไรครับ ?.........ถูกต้องครับ !!! เป็นตราสารหนี้ระยะสั้น!!!
ผมจะแชร์ให้ฟังเป็นข้อคิดครับว่า ผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้น (ส่วนใหญ่) จะได้น้อยกว่าตราสารหนี้ระยะยาว.....ทำไมล่ะครับ? >>> ก็เพราะความเสี่ยงของผู้ให้กู้ในระยะยาว (พวกเรานั่นเอง) สูงกว่า ระยะสั้น คือถ้าเราฝากเงินที่ธนาคาร 3 เดือน กับ 3 ปี.......3 เดือน เดี๋ยวเดียวก็ได้คืนแล้ว กะพริบตาทีเดียว แต่ 3 ปี ไม่รู้ระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง (อาจเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้วไม่ได้เงินคืน)
2. ประเภทของผู้กู้ (หรือประเภทของคนที่เรานำเงินไปลงทุนนั่นเอง)
ผู้กู้
|
ชื่อสิ่งที่ไปลงทุน
|
2.1 บริษัทเอกชน
|
หุ้นกู้
|
2.2
ธนาคาร
|
เงินฝากออมทรัพย์/ เงินฝากประจำ/ ตั๋วแลกเงิน/ ฯ
|
2.3 รัฐบาล
|
ตั๋วงเงินคลัง/ พันธบัตรรัฐบาล
|
ปุจฉา! ถ้าผู้กู้ทั้ง 3 มาขอยืมเงินคุณ โดยขอยืมด้วยเวลาเท่ากันหมดคือ 2 ปี คุณคิดว่าใครจะสามารถให้ดอกเบี้ยคุณต่ำที่สุดได้.....คำตอบคือ.....รัฐบาลครับ.....ทำไมล่ะ? บางคนอาจคิดว่า "ก็รัฐบาลจะไปทำธุรกิจเก่งเท่ากับภาคเอกชน หรือ ธนาคารได้อย่างไร ให้รัฐบาลกู้น่าจะเสี่ยงมากกว่าให้ธนาคารกับ บริษัทเอกชนกู้นะ"......ผมขอบอกเลยว่า เหตุผลนี้ เป็นประเด็นโต้เถียงกันมากในปัจจุบันครับ เพราะ ตามตำรา สมัยพ่อขุนรามที่ร่ำเรียนกันมา ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเลยครับว่า "รัฐบาลหรือองค์กรของรัฐ ถือว่าเป็นสถาบันที่ไม่มีความเสี่ยง (risk-free) ดังนั้นดอกเบี้ยที่ให้กู้แก่นักลงทุนจึงต่ำที่สุดในตลาดตราสารหนี้" แต่ลองดูกันครับว่าที่ผ่านมาใครกันแน่ที่ เจ๊ง!......ปี 2555 รัฐบาลกรีซต้องขอประนอมหนี้กับนักลงทุน จ่ายแค่ 40%ของเงินต้น..โอ้แม่เจ้า! มันยอดมาก... คุณย่าคุณยายชาวกรีก แกเอาเงินไปฝากกับรัฐบาลกรีซเพราะมั่นใจในความปลอดภัย แต่สรุปเงินแกหายไป 60% (ฝาก ล้าน ได้คืน สี่แสน!!!)
ถ้าใครเถียงว่าอันนี้แค่รัฐบาลประเทศเล็กๆมันถึงเจ๊ง ลองไปดูใน link นี้ได้ครับว่าประเทศใหญ่ๆ หนี้สินก็ท่วมเหมือนกัน http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_public_debt
เป็นอย่างไรบ้างครับ "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" แม้แต่รัฐบาลทีว่าปลอดภัยก็ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว
ณ วันนี้ที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี้ ข่าวที่ ดีทรอยท์ เมืองต้นกำเนิดรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ประกาศงดจ่ายเงินบำนาญให้ราชการเพราะเจ๊งครับ รวมไปถึงนักลงทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ของดีทรอยท์ (Municipal Bond) ก็โดนหางเลขไปด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องรู้จัก "ลงทุน" ครับ....ไว้ต่อคราวหน้าดีกว่า เดี๋ยวจะเบื่อกันแย่
ปล. ถ้าใครอยากอ่านเรื่องตราสารหนี้เต็มๆ แนะ นำweb นี้ครับ
http://www.thaibma.or.th/bond_tutor/investor_answer.html
No comments:
Post a Comment